สักยันต์วังหน้า ไม่ใช่เพียงศิลปะการลงอักขระบนร่างกายเพื่อความขลัง แต่คือศาสตร์เก่าแก่ที่ถ่ายทอดจากราชสำนักวังหน้า ซึ่งผสมผสานพุทธคุณ คาถา และอำนาจจิตไว้อย่างลึกซึ้ง หนึ่งในสำนักที่ยังคงสืบทอดสายวิชานี้อย่างมั่นคง คือ สำนักบ้านมีดี โดยเฉพาะภายใต้การถ่ายทอดของ อาจารย์เที่ยง น่วมมานา ปรมาจารย์ฆราวาสผู้ได้รับการยอมรับจากทั้งลูกศิษย์และครูบาอาจารย์ในยุคเดียวกัน
ต้นกำเนิดของสักยันต์วังหน้า
วังหน้า หรือกรมพระราชวังบวรสถานมงคล เป็นแหล่งรวมของวิชาอาคมชั้นสูงในอดีต ทั้งด้านศิลปะการต่อสู้ ยุทธวิธี และพุทธศาสตร์ โดยเฉพาะ “ยันต์วังหน้า” ที่มีชื่อเสียงเรื่อง ความคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตา และล่องหนหายตัว วิชานี้มีการรักษาความลับอย่างเคร่งครัด สืบทอดเฉพาะผู้มีวาสนาและคุณสมบัติเหมาะสมเท่านั้น
สำนักบ้านมีดี กับสายวิชาวังหน้า
อาจารย์เที่ยง น่วมมานา เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการถ่ายทอดวิชาสักยันต์สายวังหน้าอย่างครบถ้วน จากครูผู้เรืองเวทหลายท่าน เช่น ครูแฉ่ง วังหน้า ซึ่งถ่ายทอดยันต์ “บัวแก้ว วังหน้า” หนึ่งในยันต์เอกที่โด่งดังที่สุดของบ้านมีดี นอกจากนี้ ท่านยังได้รับวิชาอาคมอื่น ๆ จากครูอยู่ ครูชิด ครูด้วง และหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา ที่รวมกันเป็นศาสตร์ผสมผสานทั้งด้านพุทธคุณและอิทธิฤทธิ์
ยันต์บัวแก้ว วังหน้า: สุดยอดแห่งยันต์สายเมตตา
หนึ่งในยันต์ที่โด่งดังที่สุดคือ ยันต์บัวแก้ว ซึ่งมีพุทธคุณครอบจักรวาล ทั้งด้าน เมตตามหานิยม การเจรจาค้าขาย เสน่ห์ และคุ้มครองภัย ลูกศิษย์หลายคนให้การยืนยันถึงประสบการณ์จริง เช่น การพลิกชีวิตจากล้มเหลวเป็นประสบความสำเร็จ หรือแม้แต่แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุอย่างน่าอัศจรรย์
วิชาลับสายวังหน้า ยังไม่ตาย
แม้เวลาจะผ่านไป แต่ “วิชาสักยันต์วังหน้า” ไม่ได้สูญหายไปตามกาลเวลา เพราะยังมีผู้สืบทอดที่มุ่งมั่น เช่น อาจารย์บุญธรรม น่วมมานา ทายาทสายตรงของบ้านมีดี ที่ยังคงรักษาแบบแผนดั้งเดิมและสอนลูกศิษย์ให้เข้าใจเจตนารมณ์ของการลงยันต์ มิใช่เพียงเพื่อโชว์หรือความเท่ แต่เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เสริมพลังภายใน และป้องกันตนในทางธรรม
สรุป
สักยันต์วังหน้า คือหนึ่งในสมบัติล้ำค่าของภูมิปัญญาไทย ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในสำนักบ้านมีดี ใครที่ต้องการสัมผัสศาสตร์อันลึกซึ้งนี้ ควรเริ่มจากการเข้าใจรากเหง้าและเคารพในจิตวิญญาณของครูบาอาจารย์ เพื่อรับรู้ถึงพลังที่แท้จริง ไม่ใช่แค่รอยสักบนผิวหนัง แต่คือ การลงพลังในใจ