หลักธรรมคำสอนของแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม แม้จะไม่ได้ถูกบันทึกเป็นตำราเล่มใหญ่โต แต่กลับฝังรากลึกอยู่ในหัวใจของศิษยานุศิษย์และผู้ที่เคารพศรัทธามาจนถึงปัจจุบัน หัวใจสำคัญในคำสอนของท่านคือความเรียบง่าย การเน้นย้ำให้พุทธศาสนิกชนนำแก่นแท้ของพระพุทธศาสนามาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน การรักษาศีล หรือการภาวนา ซึ่งทั้งหมดนี้คือหนทางที่นำไปสู่ความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองอย่างแท้จริง บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจในแก่นธรรมอันทรงคุณค่าที่อุบาสิกาผู้ทรงอภิญญาท่านนี้ได้มอบไว้เป็นมรดก
หัวใจแห่งคำสอน: ทาน ศีล ภาวนา
คุณแม่บุญเรือนมักจะสอนลูกศิษย์อยู่เสมอให้ยึดมั่นใน “ทาน ศีล ภาวนา” ซึ่งเป็นเสาหลักสามประการของพระพุทธศาสนา ท่านสอนว่าสิ่งเหล่านี้คือรากฐานอันมั่นคงที่จะค้ำจุนชีวิตให้ตั้งอยู่บนความดีงามและนำพาไปสู่ความพ้นทุกข์ได้ในที่สุด
ทาน: การให้ที่ไม่สิ้นสุด
การให้ในแบบของคุณแม่บุญเรือนไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงการให้วัตถุสิ่งของ แต่ครอบคลุมถึงการให้อันยิ่งใหญ่ในรูปแบบต่างๆ
- อามิสทาน: คือการให้วัตถุสิ่งของเป็นทาน ท่านสอนว่าการให้นั้นไม่จำเป็นต้องรอให้รวยก่อน มีน้อยก็ให้น้อยตามกำลัง การสละออกซึ่งความตระหนี่ถี่เหนียวคือการขัดเกลากิเลสในใจ และอานิสงส์ของการให้จะส่งผลให้เราเป็นผู้ที่ไม่ขาดแคลน
- ธรรมทาน: คือการให้ธรรมะเป็นทาน เช่น การแนะนำแนวทางการปฏิบัติธรรม การชี้ให้เห็นทางสว่างในการดำเนินชีวิต ซึ่งท่านถือเป็นการให้ที่ประเสริฐที่สุด
- อภัยทาน: คือการให้อภัย ไม่ผูกโกรธ ไม่อาฆาตพยาบาท ท่านเน้นย้ำว่าการให้อภัยคือการปลดปล่อยตัวเราเองจากโซ่ตรวนแห่งความทุกข์ ทำให้จิตใจเบาสบายและสงบสุข
ศีล: เกราะป้องกันความชั่วร้าย
คุณแม่บุญเรือนให้ความสำคัญกับการรักษาศีล โดยเฉพาะศีล 5 เป็นอย่างมาก ท่านเปรียบศีลเสมือนรั้วหรือเกราะป้องกันที่ช่วยคุ้มครองเราจากความชั่วร้ายและภัยอันตรายต่างๆ การมีศีลจะทำให้ชีวิตมีความปกติสุข ไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจในภายหลัง
แนวทางการรักษาศีลในชีวิตประจำวัน
ท่านสอนให้รักษาศีลด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่แค่การท่องจำข้อห้าม แต่ให้พิจารณาถึงเจตนาเป็นสำคัญ
- ปาณาติปาตา: เว้นจากการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น มีเมตตาต่อทุกสรรพสิ่ง
- อทินนาทานา: เว้นจากการลักขโมยหรือเอาของที่เจ้าของไม่ได้ให้มาเป็นของตน
- กาเมสุมิจฉาจารา: เว้นจากการประพฤติผิดในกาม สำรวมในเรื่องคู่ครอง
- มุสาวาทา: เว้นจากการพูดเท็จ พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด หรือพูดเพ้อเจ้อ
- สุราเมรยมัชชปมาทัฏฐานา: เว้นจากการดื่มสุราเมรัยและของมึนเมาอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
ท่านชี้ให้เห็นว่าผู้มีศีลบริสุทธิ์ย่อมมีจิตใจที่ตั้งมั่น เป็นพื้นฐานสำคัญในการทำสมาธิภาวนาในขั้นต่อไป
ภาวนา: การเดินทางเข้าสู่ภายใน
ภาวนาคือหัวใจสำคัญที่สุดในการปฏิบัติธรรมตามแนวทางของคุณแม่บุญเรือน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ สมถภาวนาและวิปัสสนาภาวนา
สมถภาวนา: การทำจิตให้สงบ
ท่านแนะนำให้ฝึกทำสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบนิ่งจากความคิดฟุ้งซ่านและนิวรณ์ต่างๆ โดยอาจใช้การบริกรรมพุทโธ หรือการกำหนดลมหายใจเข้า-ออก (อานาปานสติ) เมื่อจิตสงบเป็นสมาธิแล้ว ก็จะมีกำลังในการเจริญปัญญาต่อไป
วิปัสสนาภาวนา: การเจริญปัญญาเห็นตามจริง
หลังจากจิตมีกำลังแล้ว ขั้นต่อไปคือการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน คือการใช้สติปัญญาพิจารณาสภาวธรรมตามความเป็นจริง ให้เห็นว่าร่างกายและจิตใจนี้ล้วนตกอยู่ในกฎของไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง (ไม่เที่ยง), ทุกขัง (เป็นทุกข์) และอนัตตา (ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง) การหมั่นพิจารณาเช่นนี้จะทำให้ปัญญาเกิดขึ้น สามารถปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นและคลายจากความทุกข์ได้ในที่สุด
หลักธรรมคำสอนของแม่ชีบุญเรือน นั้นสรุปลงได้ว่าคือการดำเนินชีวิตที่ไม่ประมาท โดยมี ทาน ศีล และภาวนา เป็นเครื่องนำทาง คำสอนของท่านไม่ได้ซับซ้อนหรือเข้าถึงยาก แต่เป็นสัจธรรมอันเป็นสากลที่ทุกคนสามารถนำไปปฏิบัติเพื่อยกระดับจิตใจของตนเอง สร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นได้ทั้งในปัจจุบันชาติและเป็นเสบียงบุญต่อไปในภายภาคหน้าได้อย่างแท้จริง